
จากการประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีมติที่ประชุม 4 เรื่องสำคัญเพื่อสร้างรากฐานรัฐบาลสู่ Open & Connected Government ดังนี้
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมฝ่าคลื่น Digital Disruption ด้วยการเร่งเดินหน้าตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 ทั้งในเรื่องของการมองอนาคตประเทศผ่าน (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 – 2565 โดย สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA ที่เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นเกี่ยวกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล การลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ด้วยการตั้งเป้าให้หน่วยงานราชการต้องยกเลิกเรียกสำเนาฯ โดยเฉพาะสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านให้ได้ภายในปี 2563 ซึ่งก็จะเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่รัฐบาลวางเอาไว้ในการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลของส่วนราชการเข้ากับศูนย์ข้อมูลต่างๆ อาทิ Linkage Center ของกรมการปกครอง Government Data Exchange (GDX) ของ DGA ข้อมูลการนำเข้าส่งออกเชื่อมโยงกับระบบ National Single Window (NSW) ของกรมศุลกากร เป็นต้น และสิ่งที่สามารถสร้าง Value มากที่สุดในยุคนี้คือ “ข้อมูล” รัฐบาลจึงกำหนดให้มีการนำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance) มาเป็นแกนสำคัญในการประยุกต์ใช้ Big Data ภาครัฐที่มีอยู่มหาศาลเพื่อเพิ่ม Effectiveness ของนโยบายในการพัฒนาประเทศระยะยาว

“ทั้งนี้มาตรการในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐคือ ให้ส่วนราชการที่จำเป็นต้องใช้เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารดังกล่าวจากศูนย์เชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความพร้อมสูง ได้แก่ ข้อมูลทะเบียนราษฎร และข้อมูลนิติบุคคลด้วย นอกจากนี้ เมื่อทุกหน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลมาที่ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางภาครัฐ (Government Data Exchange: GDX) เรียบร้อยแล้ว โครงการที่จะเกิดขึ้นตามมาแน่นอน คือ โครงการนำร่องศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของภาครัฐ (One – Stop Service) ที่ คกก. DG เห็นชอบมาตรการระยะสั้นและระยะยาวตามที่ DGA เสนอเพื่อรองรับการให้บริการประชาชน (Citizen Platform) ผู้ประกอบการ (Business Platform) โดยในปี 2563 ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และ DGA ร่วมกันดำเนินการการเพื่อขยายจำนวนใบอนุญาตในระบบ Biz Portal จาก 40 ใบอนุญาต ใน 10 ธุรกิจ เป็น 78 ใบอนุญาต ใน 25 ธุรกิจ เพื่อให้บริการเบ็ดเสร็จแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายภายใต้แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 – 2565

พร้อมรองรับการยืนยันตัวตนด้วย Digital ID การยื่นคำขอ การอนุมัติ/อนุญาต การออกใบอนุญาต การชำระค่าธรรมเนียมแบบ e-Payment การออกใบอนุญาตแบบ e-Licensing และติดตามสถานะของการขออนุญาตได้ด้วย และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่อนุมัติ/อนุญาต และมีช่องทางการยื่นขอใบอนุญาตผ่าน Biz Portal ได้แล้ว ใช้ระบบ Biz Portal หรือ เว็บไซต์ biz.govchannel.go.th เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการในการยื่นขอใบอนุญาตแบบ One Stop Service ภายใน 3 เดือน และดำเนินการเชื่อมโยงระบบงานที่เกี่ยวข้องเข้ากับระบบ Biz Portal ในปี 2563 และให้หน่วยงานที่มีศูนย์ให้บริการร่วมในภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม เริ่มนำระบบ Biz Portal มาอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศในการยื่นขอใบอนุญาตสำหรับประเภทธุรกิจหรือใบอนุญาตที่ให้บริการผ่านระบบ Biz Portal ได้แล้ว ภายใน 6 เดือน โดยกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการลดค่าธรรมเนียมประมาณ 30-50% เมื่อประชาชนมาใช้บริการผ่าน Biz Portal และอีกช่องทางการอำนวยความสะดวกคือ การให้บริการชาวต่างชาติ (Foreigner Platform) สามารถรายงานตัว 90 วัน ผ่านแอปพลิเคชันโดยตรงกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ทุกที่ทั่วประเทศ และสำหรับมติในที่ประชุมวันนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิดเน้นย้ำเพิ่มเติมว่า ให้เริ่มที่การพัฒนาบุคลากรภาครัฐก่อน โดยเฉพาะ CIO ของทุกกระทรวงให้เปลี่ยนบทบาทหน้าที่แบบเดิมสู่ Digital Transformation ให้ได้อย่างแท้จริง โดยเน้นการปรับโครงสร้างพร้อมให้นำคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาร่วมงานมากขึ้นเพื่อให้แผนพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ที่วางไว้มีก้าวหน้าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองกล่าว
ทั้งนี้ คกก. DG มีเป้าหมายสำคัญในการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัลภายใน 3 ปี ดังนี้
ซึ่งการดำเนินงานตาม (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 – 2565 ทั้งหมดนี้จะเป็น Digital Transformation ในการเดินหน้าสร้างรากฐานสู่ Open & Connected Government และการมีแผน Digitize เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานให้ทุกกระทรวงมุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัลในที่สุด

ไม่พบเอกสารแนบสำหรับโพสต์นี้
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสถิตในดวงใจตราบนิรันดร์น้อมศิระกราน...
เทคนิคการจัดการเว็บไซต์หน่วยงานรัฐที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป: เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐเปรียบเสมือน "สำนักงานดิจิทัล"...
"Cloud First": พลิกโฉมเว็บไซต์และบริการภาครัฐสู่มาตรฐานโลก ในยุคที่ความคาดหวังของประชาชนต่อบริการภาครัฐสูงขึ้นทัดเทียมกับภาคเอกชน...
การปรับปรุงเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐให้เป็นไปตามมาตรฐานเว็บรัฐ 3.0 เป็นกระบวนการที่มีผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ...
การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยสร้างความโปร่งใสและเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ....
การพัฒนาเว็บไซต์ภาครัฐให้คนพิการสามารถเข้าถึงได้เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ เวอร์ชัน 3.0...
มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ เวอร์ชัน 3.0 ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA)...
การปรับปรุงเว็บไซต์ภาครัฐให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บรัฐ 3.0...
มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ เวอร์ชัน 3.0 เป็นเอกสารที่ได้รับการปรับปรุงโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA)...
ราชการไทยมีโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดินที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ราชการส่วนกลาง หมายถึง กระทรวง ทบวง กรม...
Digital Transcript ผลงานสำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ที่ตอบโจทย์ทั้งนิสิต/นักศึกษา สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ปัจจุบัน...
มาตรฐานกลุ่มข้อมูลที่อยู่ มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่อยู่เป็นสิ่งที่มีความสําคัญต่อการทําให้เกิดมาตรฐานการทํางานร่วมกัน...