ราชการไทยมีโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดินที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ราชการส่วนกลาง หมายถึง กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานเทียบเท่าที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือส่วนกลางของประเทศ มีหน้าที่กำหนดนโยบาย วางแผน และกำกับดูแลการดำเนินงานทั่วประเทศ ส่วนที่สองคือ ราชการส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดและอำเภอ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่นำนโยบายจากส่วนกลางไปปฏิบัติในพื้นที่ ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในระดับท้องถิ่น และส่วนสุดท้ายคือ ราชการส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นองค์กรปกครองตนเองที่ประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาเข้ามาบริหารจัดการบริการสาธารณะและพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง การเข้าใจโครงสร้างนี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการติดต่อราชการและมีส่วนร่วมทางการเมือง
ข้าราชการคือบุคลากรหลักในการขับเคลื่อนระบบราชการไทย มีบทบาทสำคัญในการให้บริการประชาชน ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และนโยบายของรัฐบาล ข้าราชการที่ดีต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตน มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองและพร้อมรับการตรวจสอบ นอกจากนี้ ข้าราชการยังต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี และต้องทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ ทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) เป็นแนวคิดสำคัญที่ถูกนำมาปรับใช้ในการบริหารราชการไทย เพื่อให้การดำเนินงานของภาครัฐมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน หลักธรรมาภิบาลประกอบด้วยหลักการสำคัญหลายประการ เช่น หลักนิติธรรม การยึดมั่นในกฎหมาย หลักคุณธรรม การส่งเสริมให้ข้าราชการมีคุณธรรมจริยธรรม หลักความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ หลักการมีส่วนร่วม การเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจและตรวจสอบการทำงานของรัฐ หลักความรับผิดชอบ การที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ และหลักความคุ้มค่า การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การติดต่อราชการในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าในอดีต เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาประยุกต์ใช้ หรือที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ของภาครัฐผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เช่น การยื่นคำร้อง การชำระภาษี หรือการขอใบอนุญาตต่างๆ ช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อหน่วยงานราชการโดยตรง อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของตนเองในการติดต่อราชการ รวมถึงการเตรียมเอกสารให้พร้อมและถูกต้อง ยังคงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น การรู้เท่าทันเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากช่องทางดิจิทัลของภาครัฐจะช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
ไม่พบเอกสารแนบสำหรับโพสต์นี้
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)...
มาตรฐานสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ว่าด้วยมาตรฐานการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ ด้านความหมายข้อมูล เรื่อง...
มาตรฐานสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ว่าด้วยมาตรฐานการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ ด้านความหมายข้อมูล เรื่อง...
ด้วยพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการบริหารจัดการ...
ด้วยพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการบริหารจัดการ...
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ ด้วยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)...
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ มาตรฐานสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ด้านการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระบวนการทางดิจิทัลภาครัฐ 2...
เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน มั่นคงปลอดภัย และไม่ถูกละเมิดความเป็นส่วนบุคคล รวมทั้งสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน บูรณาการ...
เพื่อกำหนดนโยบายข้อมูลหรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับผู้มีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆ ภายในหน่วยงาน...
กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำคำอธิบาย ชุดข้อมูลดิจิทัลของภาครัฐและบัญชีข้อมูลให้มีความถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ดังนั้น...
เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และสำหรับบริการภาครัฐ ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล สำหรับบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ตามที่ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 เรื่อง...